pakapao
New member
ถึงลุง... ด้วยความอาลัย
จะว่าไป ผมกับลุง ไม่ได้สนิทอะไรกันมากนัก ผมออกจะเกร็งๆด้วยซ้ำ เวลาที่ได้คุยอะไรกับลุงบ้างบางครั้ง
เวลาที่เจอกันที่อู่หรือเวลาที่ผมไปหาลุงที่บ้านเพื่อรับเค้ก
ประมาณว่า ลุงเหมือนครูประจำชั้น แล้วในห้องนั้นมีนักเรียนอยู่หลายสิบคน ซึ่งจะต้องมีเด็กอยู่คนนึง
จะกวนตีน ดื้อ แหกคอก ไม่ค่อยฟังเวลาครูสอน เอาแต่เล่นเอาแต่สนุกบ้าบอๆ อะไรดีๆก้อจะไม่ทำ ที่ไม่ดีก้อชอบนักแหละ
ผมก้อคงเหมือนเด็กคนนั้น ห้องประจำชั้น ก้อคือบ้าน Bon เรานี่แหละ ซึ่งบางทีนอกจากไม่ฟัง ยังอวดดีซะด้วยซ้ำ
แต่ด้วยความเป็นลุง คงผ่านเรื่องแบบนี้มาเยอะแล้ว ก้อไม่ได้สนใจเรื่องแบบนั้น ลุงก้อยังทำแบบที่ลุงทำอยู่ทุกๆวัน
คอยบอกคอยสอน ตอบปัญหาทุกคำตอบ เป็นโรงเรียนสอนให้คนที่ไม่ประสาเรื่องรถแบบผม สามารถรู้เรื่องรถมากขึ้น
แม้จะไม่ได้คุยกันโดยตรง แต่ทุกคำตอบที่ลุงพิมพ์ลงไปในBon. ก้อจะผ่านตาผมหมด
มันค่อยๆซึมซับเข้าไปในสมองผม และเข้าไปละลายพฤติกรรมโง่ๆอะไรหลายๆอย่างที่ผมเคยทำไว้
เรียกว่าเปลี่ยนทัศนคติในการเรียนรู้และการใช้รถเลยทีเดียว
เมื่อผมสลัดความอวดดี(อีโก้) ออกไปได้ ผมก้อเริ่มที่จะได้คุยกับลุงได้มากขึ้น ผ่านpm
ผ่านหน้าweb. ซึ่งประมาน 2-3ปีแรก ที่ได้เข้าweb นี้ ผมไม่เคยทำเลย...
ผมได้รู้ว่า ลุงจะรักเฮียตือมาก (ขอเสียมารยาทนะครับเฮีย)ซึ่งเฮียน่าจะรู้เป็นอย่างดี ที่ผมรู้ได้เพราะช่วงนึงที่เฮียกำลังลำบาก
ตอนที่เฮียประกาศขายของ ผมน่าจะเป็นคนแรกๆที่เข้าไปทาบทามซื้อรถไว้ ซึ่งตอนนั้นผมคิดว่าเฮียจะไปขับSL
แต่ไม่ได้เป็นไปตามที่ผมคิดไว้ เพราะผมเริ่มรู้เมื่อมีการเคลื่อนไหวในการให้ความช่วยเหลือเฮีย โดยมีลุงเป็นแกนหลัก
ด้วยความรู้สึกละอายใจ ผมกำลังซ้ำเติมความลำบากคนอื่น ในระหว่างที่คนอื่นกำลังให้ความช่วยเหลือกันอยู่
ก้อเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมกับลุง ได้คุยกันอย่างที่ผมกับลุงไม่เคยทำมาก่อน ผมถามลุงไป ว่าผมสมควรไม๊
ลุงก้อแนะนำว่า ถ้าคุณมีจิตใจที่อยากจะช่วย คุณก้อทำแบบอีกท่านสิ เค้ามารับรถไปโดยมีข้อเสนอ
โดยที่เมื่อเฮียมีกำลังสามารถรับรถคืนไปได้เมื่อไหร่ ก้อให้รับกลับไปได้...
แล้วเมื่อเหตุการณ์ต่างๆหล่าวนั้นได้คลี่คลายไป ทำให้ผมรู้ว่า ลุงรักเฮียตือมากกกครับ
จนมาครั้งสุดท้าย..ที่ได้เจอลุง.
ผมได้สั่งเค้กไว้ น่าจะลูกที่4หรือ5นี่แหละ จำไม่ได้ เพราะผมกับแฟนจะชอบกินเค้กโอเปร่า ซื้อก้อเอากลับไปกินกัน2คน
ไม่ค่อยแบ่งใคร แต่เชื่อไม๊ ว่าผมเค้าไปรับเค้ก 5 ครั้ง. ผมไม่เคยเจอลุง. จนมีครั้งล่าสุดนี่แหละ
ที่ได้เข้าไปเจอลุงถือเค้กมาให้ และวันนั้น ผมได้ขับv12. รถที่ลุงรัก เหมือนรถตัวเอง
ขอตื้บซักทีวะ พูดแกมหยอกกะเซ้าผม
รถคันนี้ต้องไปเอาถังแก้สลงอีกนะซัก2นิ้ว จะให้ดีเปลี่ยนถังไปเลย หรือแก้ท่อส่งแก้สในถังก้อได้
รับรองคุนจะขับมันส์กว่านี้ พูดแล้วยิ้มด้วยความหมั่นเขี้ยว
ครับลุง
ดูแลดีๆล่ะ อะไหล่บางตัวราคาก้อเอาเรื่องนะ แต่ใช้ยาว ขับอย่าใจร้อน ค่อยๆเหยียบ
อย่าให้ล้อฟรี ถึงจะรู้ใจมัน พูดพลาง อมยิ้มไป ค่อนข้างจะภูมิใจในรถคันนี้มาก
ครับลุง นั่นคือคำตอบที่ผมพูดได้
ในใจผมก้ออยากบอกลุงว่า รถคันนี้ที่ผมเอา ส่วนหนึ่งก้อเพราะลุงนี่แหละ
ก่อนจากกัน ลุงบอกด้วยความเป็นห่วง
จะขับคันนี้ อย่ากินเหล้านะ อย่ากินเด็ดขาด
นั่นคือคำประโยคสุดท้าย ที่ลุงพูดกับผม
ครับลุง ขอบคุนมากครับ และนั่นคือประโยคสุดท้ายที่ผมได้พูดกับลุงเช่นกัน
ลุงครับ...ผมไม่รู้นะว่าลุงตอนนี้อยู่ไหน ลุงอาจนะมาแอบดูผมอยู่ก้อได้
แม้ตอนนี้ลุงจะไม่มาตอบคำถาม ไม่มาเสวนา ไม่มาสอนเหมือนที่ลุงเคยทำ
แต่ทุกคำที่ลุงเคยฝากเอาไว้ในBon จะถูกจดจำไว้ตลอดไป
ขอให้ลุงจงไปสู่สุขคติครับ
คิดถึงลุงครับ
จะว่าไป ผมกับลุง ไม่ได้สนิทอะไรกันมากนัก ผมออกจะเกร็งๆด้วยซ้ำ เวลาที่ได้คุยอะไรกับลุงบ้างบางครั้ง
เวลาที่เจอกันที่อู่หรือเวลาที่ผมไปหาลุงที่บ้านเพื่อรับเค้ก
ประมาณว่า ลุงเหมือนครูประจำชั้น แล้วในห้องนั้นมีนักเรียนอยู่หลายสิบคน ซึ่งจะต้องมีเด็กอยู่คนนึง
จะกวนตีน ดื้อ แหกคอก ไม่ค่อยฟังเวลาครูสอน เอาแต่เล่นเอาแต่สนุกบ้าบอๆ อะไรดีๆก้อจะไม่ทำ ที่ไม่ดีก้อชอบนักแหละ
ผมก้อคงเหมือนเด็กคนนั้น ห้องประจำชั้น ก้อคือบ้าน Bon เรานี่แหละ ซึ่งบางทีนอกจากไม่ฟัง ยังอวดดีซะด้วยซ้ำ
แต่ด้วยความเป็นลุง คงผ่านเรื่องแบบนี้มาเยอะแล้ว ก้อไม่ได้สนใจเรื่องแบบนั้น ลุงก้อยังทำแบบที่ลุงทำอยู่ทุกๆวัน
คอยบอกคอยสอน ตอบปัญหาทุกคำตอบ เป็นโรงเรียนสอนให้คนที่ไม่ประสาเรื่องรถแบบผม สามารถรู้เรื่องรถมากขึ้น
แม้จะไม่ได้คุยกันโดยตรง แต่ทุกคำตอบที่ลุงพิมพ์ลงไปในBon. ก้อจะผ่านตาผมหมด
มันค่อยๆซึมซับเข้าไปในสมองผม และเข้าไปละลายพฤติกรรมโง่ๆอะไรหลายๆอย่างที่ผมเคยทำไว้
เรียกว่าเปลี่ยนทัศนคติในการเรียนรู้และการใช้รถเลยทีเดียว
เมื่อผมสลัดความอวดดี(อีโก้) ออกไปได้ ผมก้อเริ่มที่จะได้คุยกับลุงได้มากขึ้น ผ่านpm
ผ่านหน้าweb. ซึ่งประมาน 2-3ปีแรก ที่ได้เข้าweb นี้ ผมไม่เคยทำเลย...
ผมได้รู้ว่า ลุงจะรักเฮียตือมาก (ขอเสียมารยาทนะครับเฮีย)ซึ่งเฮียน่าจะรู้เป็นอย่างดี ที่ผมรู้ได้เพราะช่วงนึงที่เฮียกำลังลำบาก
ตอนที่เฮียประกาศขายของ ผมน่าจะเป็นคนแรกๆที่เข้าไปทาบทามซื้อรถไว้ ซึ่งตอนนั้นผมคิดว่าเฮียจะไปขับSL
แต่ไม่ได้เป็นไปตามที่ผมคิดไว้ เพราะผมเริ่มรู้เมื่อมีการเคลื่อนไหวในการให้ความช่วยเหลือเฮีย โดยมีลุงเป็นแกนหลัก
ด้วยความรู้สึกละอายใจ ผมกำลังซ้ำเติมความลำบากคนอื่น ในระหว่างที่คนอื่นกำลังให้ความช่วยเหลือกันอยู่
ก้อเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมกับลุง ได้คุยกันอย่างที่ผมกับลุงไม่เคยทำมาก่อน ผมถามลุงไป ว่าผมสมควรไม๊
ลุงก้อแนะนำว่า ถ้าคุณมีจิตใจที่อยากจะช่วย คุณก้อทำแบบอีกท่านสิ เค้ามารับรถไปโดยมีข้อเสนอ
โดยที่เมื่อเฮียมีกำลังสามารถรับรถคืนไปได้เมื่อไหร่ ก้อให้รับกลับไปได้...
แล้วเมื่อเหตุการณ์ต่างๆหล่าวนั้นได้คลี่คลายไป ทำให้ผมรู้ว่า ลุงรักเฮียตือมากกกครับ
จนมาครั้งสุดท้าย..ที่ได้เจอลุง.
ผมได้สั่งเค้กไว้ น่าจะลูกที่4หรือ5นี่แหละ จำไม่ได้ เพราะผมกับแฟนจะชอบกินเค้กโอเปร่า ซื้อก้อเอากลับไปกินกัน2คน
ไม่ค่อยแบ่งใคร แต่เชื่อไม๊ ว่าผมเค้าไปรับเค้ก 5 ครั้ง. ผมไม่เคยเจอลุง. จนมีครั้งล่าสุดนี่แหละ
ที่ได้เข้าไปเจอลุงถือเค้กมาให้ และวันนั้น ผมได้ขับv12. รถที่ลุงรัก เหมือนรถตัวเอง
ขอตื้บซักทีวะ พูดแกมหยอกกะเซ้าผม
รถคันนี้ต้องไปเอาถังแก้สลงอีกนะซัก2นิ้ว จะให้ดีเปลี่ยนถังไปเลย หรือแก้ท่อส่งแก้สในถังก้อได้
รับรองคุนจะขับมันส์กว่านี้ พูดแล้วยิ้มด้วยความหมั่นเขี้ยว
ครับลุง
ดูแลดีๆล่ะ อะไหล่บางตัวราคาก้อเอาเรื่องนะ แต่ใช้ยาว ขับอย่าใจร้อน ค่อยๆเหยียบ
อย่าให้ล้อฟรี ถึงจะรู้ใจมัน พูดพลาง อมยิ้มไป ค่อนข้างจะภูมิใจในรถคันนี้มาก
ครับลุง นั่นคือคำตอบที่ผมพูดได้
ในใจผมก้ออยากบอกลุงว่า รถคันนี้ที่ผมเอา ส่วนหนึ่งก้อเพราะลุงนี่แหละ
ก่อนจากกัน ลุงบอกด้วยความเป็นห่วง
จะขับคันนี้ อย่ากินเหล้านะ อย่ากินเด็ดขาด
นั่นคือคำประโยคสุดท้าย ที่ลุงพูดกับผม
ครับลุง ขอบคุนมากครับ และนั่นคือประโยคสุดท้ายที่ผมได้พูดกับลุงเช่นกัน
ลุงครับ...ผมไม่รู้นะว่าลุงตอนนี้อยู่ไหน ลุงอาจนะมาแอบดูผมอยู่ก้อได้
แม้ตอนนี้ลุงจะไม่มาตอบคำถาม ไม่มาเสวนา ไม่มาสอนเหมือนที่ลุงเคยทำ
แต่ทุกคำที่ลุงเคยฝากเอาไว้ในBon จะถูกจดจำไว้ตลอดไป
ขอให้ลุงจงไปสู่สุขคติครับ
คิดถึงลุงครับ
